ดีที่….ยอมนิ่ง

เรื่องบางเรื่องมันต้องใช้เวลานะหนิง เชื่อเถอะว่า วันนึงสิ่งที่เราตั้งใจและยืนหยัด มันจะทำให้เขาเห็นกันเอง เราต้องหนักแน่นในสิ่งที่เราคิดและตั้งใจนะ

Healthy Ning, Yoga Phuket โยคะครูหนิง

นี่เป็นคำพูดของทั้งครู สามี และเพื่อนสนิทได้เตือนสติหนิงไว้ในวันที่เรามีปัญหา หนิงอาจจะจำทุกคำที่ทุกคนบอกมาได้ไม่หมดทุกคำพูด แต่สิ่งที่เขียนไว้ตอนต้นนั้นเป็นเนื้อหาบางส่วนที่มันทำให้หนิงกลับไปคิดทบทวนตัวเอง

มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะคะ ว่าสิ่งที่หนิงทำอยู่ทุกวันนี้ ที่บอกกับทุก ๆ คนว่า

“ทำด้วยรัก สอนด้วยใจ”

หนิงก็ยังคงต้องกินต้องใช้ ยังจำเป็นที่ต้องมีรายได้ประมาณนึงเพื่อดูแลรับผิดชอบกับหลาย ๆ อย่าง หนิงยังคงมีหนี้สินก้อนใหญ่ที่เป็นภาระหนักอึ้ง ยังคงต้องเสียค่าประกันชีวิต ยังคงต้องจ่ายเงินเดือนให้กับแม่บ้าน และอีกหลาย ๆ สิ่งที่ต้องทำ เพราะมันคือ “หน้าที่” เมื่อเป็นแบบนี้ จึงทำให้หนิงเองเคยเข้าขั้น “จิตตก” เพราะเมื่อถึงวันนึง สตูดิโอโยคะเริ่มเปิดขึ้นมากมาย จนเกือบเรียกได้ว่า “เป็นดอกเห็ด” ทำให้ผู้ฝึกกับหนิงหลายคนเปลี่ยนที่ฝึก เนื่องจากความสะดวกในการเดินทาง และความชอบที่แตกต่างกันไป ยอมรับว่าช่วงนั้น เริ่มมีความเครียดและเกิดความลังเลขึ้นบ้าง ว่าเราจะเปลี่ยนแนวคิดตัวเองทำแบบเอาใจตลาดดีไม๊  5555

ว่าแล้วก็ จะเอาไงดีกับชีวิตดีเนี่ย ขอปรึกษากับครูผู้มีประสบการณ์ กับสามี และเพื่อนสนิทก่อนดีกว่าเผื่อให้ข้อคิดอะไรดี ๆ  และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ทุกคนให้ข้อคิดอะไรต่าง ๆ มากมาย สรุปคือ “เวลา” จะเป็นตัวบ่งบอกอะไรหลาย ๆ อย่างเอง อย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกกับการเปลี่ยนแปลงเพราะแนวทางที่เราเลือกมันเป็นแนวที่สุดท้ายแล้วมันเลี่ยงไม่ได้เลย กับการฝึกแบบถนอมร่างกาย

หลังจากที่ได้ปรึกษาไปแล้ว หนิงก็มาคิดทบทวนกับความคิดตัวเอง เริ่มตั้งหลักใหม่ ถามตัวเองว่า “สรุปแล้วตอนนี้เราจะยังยึดในหลักการหรือจะปรับตัวไปตามสถานการณ์เพื่อหารายได้” คำตอบตัวเองมันผุดขึ้นมาอย่างชัดเจนว่า “เราต้องยึดในหลักการสิ” ถ้ารู้อยู่แล้วว่าการที่เราเปลี่ยนตัวเอง ต้องเปลี่ยนแนวการสอน ถ้าต้องทำจริง เราจะทำได้เหรอเพราะมันค้านกับความคิดความรู้สึกของเราโดยสิ้นเชิง และตอนนี้เราจะทำทุกอย่างเพื่อนเงินแล้วเหรอเนี่ย มันไม่ใช่นะ แล้วเราขัดสนเขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ไม่ใช่อีก เหตุผลมันก็ตอบตัวมันเองแล้วอ่ะนะ คงต้องรอ “เวลา” สินะ

สุดท้ายไม่นาน ก็เกือบปีกับความรู้สึกนั้น หนิงก็ได้รับรู้ถึงคำที่ทุกคนบอกแล้ว มันไม่นานด้วยซ้ำ กับเวลาที่รอคอย ยังมีอีกหลายคนที่ยังต้องการการสอนแบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกดีนะคะ ที่เราได้ยินเสียงคนที่มีปัญหาร่างกาย บอกว่ามาฝึกแล้วดีขึ้น บอกว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ว่าสอนแบบนี้ไม่งั้นมาเรียนนานแล้ว และอีกมากมาย ผู้ฝึกถึงไม่ได้เยอะมากมายแต่ก็ใช่ว่าน้อย การที่เราได้ทำ “ตามฝัน” ได้ทำใน “สิ่งที่รัก” มันคงหาไม่ได้อีกแล้ว

หลังจากนี้ไป ไม่ว่าพายุจะกระหนำแค่ไหน ผู้หญิงชื่อ “หนิง” คนนี้จะแน่วแน่กับความคิดที่ได้ “เลือก” แล้วต่อไป และยืนหยัดที่จะ “ทำด้วยรัก สอนด้วยใจ” ดีนะ … ที่ยอมนิ่ง อิอิ

ใส่ความเห็น